ร้านค้าขายเกือบทุกร้านจะมี สิ่งที่อยู่คู่ และเห็นจนชินตากันมานานมากแล้ว คงหนีไม่พ้น
ศาลเจ้า หลังเล็กบ้าง หย่อมบ้าง ใหญ่บ้าง....เมื่อก่อนนั้น มีแต่สีแดงสด และต่อมามีการพัฒนามาเป็นสีอื่น
วัสดุจากไม้ กลายเป็น หินอ่อน บางทีอาจพบหินทรายบ้างประปราย ล่าสุด สมัยใหม่นิยม สร้างเป็นแบบ
ติดกับตัวอาคาร

"ซึ่งวิถีการนี้ ได้ถูกปฎิบัติ สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน
ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยอดนิยมคู่ร้านค้า กันเลยทีเดียว
ร้านค้าไหนไม่มี เห็นทีจะกลายเป็นเรื่องแปลก ๆ ไป เพราะบางที ศาลหลังเล็ก ๆ
ก็เพิ่มความมีเสน่ห์น่ามอง เป็นเครื่องตกแต่ง ร้านค้า ให้ดูสวยงาม น่ามอง
เรียกความศรัทธาได้อย่างมาก ถ้าเจ้าของกิจการ นั้น ๆ
ดำเนินงานการค้าขาย ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจีน ๆ ลับสร้างมนต์ขลัง
ให้กับเจ้าของร้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ "

เจ้าของกิจการหลายท่านมีความประสงค์จะตั้ง " ตี่จู้ " ก็ไม่แน่ใจจะตั้งถูกหรือผิดหลักการ
ดังนั้น วันนี้คงต้องมาบอก หลักการเบื้องต้นกันหน่อย

ตามปกติวิสัยนั้น ชนชาวจีนจะนิยมไหว้ สักการะ เทพเจ้าต่าง ๆ เป็นประจำ และ หนึ่งในนั้น ก็คือ " ตี่จู้ "
แต่เดิมนั้นชาวจีนให้ความสำคัญกับประตูทุกบาน ชาวจีนเชื่อกันว่าประตูทุกบานต่างมีนายทวาร
ที่เป็นเทพรักษาประตูอยู่ด้วยกันทั้งนั้น

     แต่เดิมนั้นตามตำนาน ตี่จู้ เป็นเทพห้าพี่น้องมาประจำอยู่ เทพองค์ที่ 4 และ 5
จะทำหน้าที่นายทวาร ให้แก่บ้าน สังเกตได้จากชาวจีนไหว้ตี่จู้ จะต้องใช้ น้ำชา 5 ถ้วย ผลไม้ 5 อย่าง
และอื่น ๆ เป็นห้า

แต่เวลาจุดธูปไหว้ ต้องจุด 5 ดอก ปัก 3 ดอกที่กระถางธูปอีก 2 ดอก
เสียบที่ประตูทั้ง ซ้าย ขวา อย่างละดอก

นี้จึงเป็นธรรมเนียมปฎิบัติไหว้ที่ถูกต้อง

ตามหลักฮวงจุ้ยเบื้องต้น (fengshui Basic)

ส่วนของไหว้ ก็ 5 อย่างเช่นเดิม

*** ที่สำคัญอย่าคิดว่าท่านเป็นเทพ ชั้นพื้นๆ ระดับล่างคิดจะไหว้เมื่อไหร่ อย่างไร หรือ อยู่ตรงไหน ก็ได้
เพราะนั้น เท่ากับว่า ท่านคิดผิดมากที่ตั้งตี่จู้ ขึ้นมา .......
ร้านค้าหลายแห่งประสบปัญหาขาดทุน โดยไร้สาเหตุ จากการค้าที่เคย เจริญรุ่งเรือง แต่ต่อมา
ไม่มีเวลาดูแลศาล ตี่จู้ ปล่อยปละละเลย นี่คือ อีก 1 สาเหตุ ที่หลายท่านผลาดกัน มานักต่อนักแล้ว