ตามธรรมเนียมแต่โบราณมานั้น เทศกาลที่สำคัญของเดือนเก้าอีกสิ่งคือ " เทศกาลถือศีลกินเจ "
โดย กำหนดเอาวันตามหลักจันทรคติ คือ เริ่มตั้งแต่ วันขึ้น ๑ ค่ำ ถึง ๙ ค่ำ เดือน ๙
ตามปฎิทินจีน ทุกปี รวม ๙ วัน ๙ คืน

ซึ่งจะมีพิธีกรรมสักการะบูชาเทพพระพุทธเจ้าทั้ง ๗ พระองค์ และพระโพธิสัตว์ ๒ พระองค์ในฝ่ายมหายาน
นั้น อธิบายถึงการประกอบพิธีอีกนัยหนึ่งคือ เพื่อ สักการะบูชา ดาวนพเคราะห์ ทั้ง ๙ อันมี

โดย เทพเจ้าทั้ง ๙ พระองค์นี้ จะทรงเครื่องทรง แบบอย่างกษัตริย์ เรียก
" เก้าอ๊วง"       " กิวอ๊วง "      ที่แปลว่า      นพราชา

        ทุกๆ เวลาในแต่ละปี ของวันขึ้น ๑ ค่ำ ถึง ๙ ค่ำ เดือน ๙ ตามหลักจันทรคติจีนเทพเจ้าประจำดาว
เคราะห์  ต่างหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันลงมาดูแลโลกทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนั้น บุคคลใดที่ ประพฤติ
ิตั้งตนเองใน กุศลกรรม ก็จักทรงประทานพรให้ แต่บุคคลใด ที่ประพฤติ อกุศลกรรม ก็จักลงโทษ
ในเทศกาลดังกล่าว จะงดกิจกรรมทางโลกและตั้งปณิธาน ถือศีลกินเจ  บริโภคแต่อาหารประเภทผัก
และผลไม้ งดเว้นอาหารเนื้อ ของสด คาวโดยอาหารที่นำมาบริโภคนั้นยังมีข้อยกเว้นเครื่องปรุงบางประเภท

อันได้แก่    พืชผักฉุนทั้ง ๕ ประเภท

เนื่องจากผักดังกล่าวนั้น เป็นผักที่มีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง  ฉุน  รสเข้มหนัก  นอกจากนี้ ยังมีพิษ
ทำลายพลังธาตุทั้ง ๕ ของร่างกาย ทำให้อวัยวะในร่างกายทำงานผิดปกติ

หลักการกินเจนั้น จึงมิใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อด้านจิตใจสดชื่น
เบิกบาน  ร่าเริงได้ในขณะเดียวกัน โดยยังมีอีก ๗ วัน    ที่คนจีน บางส่วน   นิยมงดเนื้อสัตว์ กินเจ คือ

พิธีกรรมถือศีลกินเจ ไม่เสพเนื้อสัตว์ และการบูชาดาวนพเคราะห์ ทำบุญแจกทาน

แก่คนทุกข์ยากจนนี้   เป็นที่นิยมมาแต่โบราณกาล   การถือศีลกินเจเดือนเก้า

เป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้แผ่เมตตา กรุณาถึง ๙ วัน ๙ คืนนั้น

ควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบทอดต่อไป